Photographer :Sutthaya "Thaya" Chalassathien Instagram : @sutthastudio
Story : Pongpat Elf Maneerat / Sorasak Chanmantana
Model :Thanaphan Yathuam
Copyright :Suttha Studio & Onion Supply Co.,Ltd
เอกมัย ย่านที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี ถือเป็นย่านที่คับคั่งไปด้วย ผู้คนที่มากด้วยสไตล์ ตั้งแต่ใส่ สูทผูกไท สุดแสนจะทางการ ไปจนถึง สตรีทสไตล์ ที่สนุกสนานตามความชื่นชอบที่แตกต่างกันไป ประกอบกับสถานที่ต่างๆที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้าทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอก ออฟฟิศ ซูเปอร์มาร์เกต ตลอดจนไปถึง สถานที่แฮงค์เอาท์ยามค่ำคืน
เรียกได้ว่า ถนน 1 สายในซอยสุขุมวิท 63 สามารถตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของเราได้อย่างสบายๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เราโฟกัสและให้ความสนใจจนต้องหยิบยกออกมาพูดคือ สไตล์ของผู้คนย่านเอกมัยที่ชัดเจน จนเราสามารถพูดได้เลยว่า บนรถไฟฟ้า1ขบวน ใครบ้างที่จะสแกนบัตรบีทีเอสออกมาที่สถานีเอกมัย เพื่อมาดำเนินวิถีชีวิตอันสนุกสนาน
เราหยิบยกสไตล์ของผู้ชายย่านเอกมัย แบ่งออกเป็น 4 ลุค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คนในย่านเอกมัยที่ชื่นชอบการแต่งตัว ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ และ กิจกรรมที่หลากหลายมาเป็น 1 ทางเลือก มาเป็นอินสไปเรชั่นในการแต่งตัว สำหรับคนที่ยังมองหาสไตล์ หรือ อยากมีทางเลือกใหม่ๆ
Look 1 : CLASSIC BOSSINESS
ลุคไปทำงานออฟฟิสที่เน้นเสื้อเบลเซอร์เป็นไอเทมสำคัญ บ่งบอกถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่เสนอมุมมองในการแต่งตัวที่แปลกใหม่ ด้วยกลิ่นอายความคลาสสิคของเบลเซอร์แบบกระดุมสามเม็ดกับกางเกงที่มีการจับจีบด้านหน้า(Pleated Chino) ซึ่งเป็นการดีไซน์แบบติดความเชย แต่ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและสามารถใส่ได้ง่ายขึ้นด้วยทรงสลิมฟิตบวกกับรองเท้าผ้าใบทรง Converse ที่เป็นไอเท็มที่ไม่เคยห่างหายไปไหน เพื่อเพิ่มลุคให้ดูสปอร์ตได้ในขณะเดียวกัน โดยเลือกใช้โทนสีของเสื้อผ้าด้วยสี ขาว-น้ำเงินกรม ที่ดูทางการและดูสุภาพ แต่ยังดูดีไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย
ลุคนี้ให้ความรู้สึกแบบไปทำงานจริงจัง แต่แอบใส่รองเท้าผ้าใบแก้เขินกลัวดูแก่ไป
LOOK 2 : SPECIAL ORDINARY DAY
ในวันที่ว่างเว้นจากการทำงานหรือวันที่คุณอยากจะลาหัวหน้าออกไปทำธุระข้างนอก การปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าเพียงบางชิ้นถือเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและประหยัดเวลาที่สุด เพียงปรับเปลี่ยนช่วงบนให้เป็นเสื้อยืดที่มีดีเทลของกระเป๋าบนหน้าอก(Pocket Tee) ตามแบบฉบับเสื้อกีฬาในสมัยก่อนประมาณช่วง 50's - 60's กับดีเทลตรงช่วงคอที่นอกจากจะเป็นสีที่ตัดกันกับตัวเสื้อแล้วยังเป็นการดีไซน์ของเสื้อยืดตำรวจในสมัยก่อนด้วย อีกหนึ่งไอเทมที่ตอบโจทย์ลุค สตรีทสไตล์ที่สนุกสนานและยังเป็นไอเทมที่ฮิตติดลมบนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอย่าง Baseball Cap ที่ใส่ได้กับทุกชุดแต่เพิ่มความพิเศษด้วยวัสดุที่มีความคลาสสิคอย่างผ้า Corduroy หรือลูกฟูก ตัดกับสายปรับขนาดที่ทำจากหนังของตัวหมวก
ลุคนี้เหมาะสำหรับคนไม่ชอบเปลี่ยนชุดเยอะ แต่อยากให้ดูแตกต่างได้หลายสเต็ป เพียงแค่พัฒนาจากลุคที่ 1 ง่ายๆเท่านั้นเอง
LOOK 3 : STAY COOL ON THE WEEKEND
สำหรับคนที่ชื่นชอบการมิกซ์แอนด์แมทช์การแต่งตัวให้มีกลิ่นอายความเป็น Vintage คงจะชื่นชอบลุคนี้ ด้วยการจับคู่สี OFF WHITE กับ OLIVE ที่บ่งบอกถึงยุค 40’s -50’s มีกลิ่นอายของความเป็น Military Style ซึ่งถือเป็นอีก 1 เทรนด์ที่วนเวียนมาให้เราได้เห็นบ่อยๆตามรันเวย์และท้องถนน เสริมด้วยรองเท้า Sandals เพื่อทำให้ Total Look ดูรีแลกซ์มากขึ้น แต่ทั้งหมดเราคงต้องยกให้เสื้อด้านในเป็นไอเท่มชิ้นสำคัญของลุคนี้ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมไอเท่มทุกชิ้นเข้าด้วยกันอย่าง Plaid Shirt โทน Burgundy ที่นอกจากจะโทนดาวน์ลุค Military ไม่ให้ดูน่าเบื่อไปแล้ว ยังเป็นไอเท่มที่นำเสนอลุค Vintage ได้ดีอีกชิ้นนึง #อย่าลืมแว่นกันแดดในวันที่คุณออกไปเผชิญโลกกว้าง
ลุคนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบสไตล์ทหาร แต่อยากแตกต่าง และไม่อยากให้ดูจริงจังจนเกินไป
LOOK 4 : GOODBYE HOMETOWN
ลุคที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่กำลังจะมองหาสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนย่อนใจหรือหาแรงบันดาลใจใหม่ๆสำหรับปีใหม่ที่จะมาถึง โดยไม่ละทิ้งสไตล์ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง โดยเลือกกระเป๋าแบคแพค ที่ทำจากไนลอนที่มีน้ำหนักเบา แต่มีความคงทนสูงเป็นเพื่อนคู่ใจในการเดินทาง บวกกับรองเท้ากีฬาที่มีดีไซน์ที่สนุกสนานโดยการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย อย่างหนังวัวกับหนังกลับและโทนสีที่ตัดกันกับเสื้อผ้า เพื่อเพิ่มดีเทลและความสะบายในวันที่เราต้องเดินนานๆ โทนสีของเสื้อผ้าที่คุณเลือกใส่อาจจะสอดคล้องกับสีของกระเป๋าหรือรองเท้า เพื่อไม่ให้ Total Look มีสีสันที่มากเกินไป
ลุคนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบสไตล์เอาท์ดอร์ และชอบทำกิจกกรมในป่า หรือ ทะเล
ทั้งหมดที่เรานำเสนอ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ อาจหยิบเพียงบางชิ้นหรือเทคนิคการจับคู่โทนสี แล้วนำไปปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบุคลิคหรือสไตล์ส่วนตัว เพราะการแต่งตัวถือเป็นอีกสิ่งที่เสนอความเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีกฎตายตัว เป็นสิ่งที่สามารถปรับบุคลิค และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ดีอีกอย่างหนึ่ง
สถานที่
Onion Ekamai 12
The Commons 335 Thonglor 17, Sukhumvit 55 Bangkok, Thailand
เสื้อผ้าทั้งหมดนำมาจาก Onion Store